วานนี้ (19 ก.ค.) นพ.กัมปนาท ตันสิถบุตรกุล จิตแพทย์ชื่อดัง ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กเกี่ยวกับการที่มารดาของ แพรวา เทพหัสดิน ณ อยุธยา ออกมาพูดถึงลูกว่าเป็นโรคซึมเศร้า ว่าฟังไม่ขึ้น เพราะหากสามารถมีแฟนและแต่งงานได้ ก็ไม่น่าจะป่วยถึงขนาดไม่สามารถออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อผู้เสียหายได้
โดยนพ.กัมปนาท ระบุว่า ปัจจุบันมีคนจำนวนมาก รวมถึงคนดัง
อ้างตัวเป็นโรคซึมเศร้าเวลาสร้างปัญหาอะไรไว้ แต่จริงๆ ต้องถามว่าคนเหล่านี้รู้จักโรคซึมเศร้าดีแค่ไหน ซึ่งตนก็ตรวจคนไข้ที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้ามาจำนวนมาก อาการจะมากน้อยก็แล้วแต่บุคคล แต่ที่สำคัญคือต้องให้คนไข้เข้าใจว่าอาการมีลักษณะอย่างไร ภาพจากเฟซบุ๊ก นพ.กัมปนาท ตันสิถบุตรกุล ไม่ใช่ว่าโกรธใคร หรือแสดงพฤติกรรมแย่ๆ ก็อ้างโรคซึมเศร้า แล้วไม่ต้องรับผิดชอบใดๆ ต่อการกระทำของตนเอง เพราะ โรคซึมเศร้า กับจิตสำนึก มันคนละส่วนกัน โดยมีการท้าให้นำใบรับรองแพทย์จากจิตแพทย์มายืนยัน เพราะปกติจิตแพทย์จะไม่ออกใบรับรองแพทย์ให้ผู้ป่วยง่ายๆ โดยเฉพาะกรณีที่เป็นประเด็นอ่อนไหวแบบนี้ เท่าที่เห็นก็มีแต่พ่อแม่ หรือผู้เกี่ยวข้องที่ออกมาอ้างถึงโรคนี้เท่านั้น
นอกจากนี้ นพ.กัมปนาท ยังกล่าวว่า ในกรณีที่มีอาการโรคซึมเศร้า จิตแพทย์จะคุยกับคนไข้เสมอว่าโรคนี้ไม่ได้มีอาการคลุ้มคลั่งอาละวาด หรือพูดจาไม่รู้เรื่อง และอย่าเอาโรคของตัวเองไปอ้างเพื่อปฏิเสธ ความรับผิดชอบต่อสังคม เพราะจะทำให้ผู้ป่วยโรคซึมเศร้าคนอื่นๆ เสียหายและถูกมองในแง่ลบไปหมด
นพ.กัมปนาท ได้ถามถึงอาการป่วยของแพรวาว่า หากมีแฟนได้แต่งงานได้ ก็แสดงว่าอาการไม่ได้หนักถึงขนาดผู้ปกครองต้องเฝ้าตลอด 24 ชั่วโมง แล้วทำไมจึงไม่สามารถไปเยี่ยมเยียนหรือแสดงความรับผิดชอบผู้เสียหายได้เลย การชี้แจงแบบนี้ฟังไม่ขึ้น และยิ่งพูดก็ยิ่งดูแย่ลงกว่าเดิม ส่วนประเด็นที่จะให้กระทรวงยุติธรรมออกเงินให้ก่อนนั้น ตนไม่เคยได้ยินมาก่อนในประวัติศาสตร์ แต่อาจเพราะเป็นตระกูลที่ยิ่งใหญ่ จึงอาจจะมีคนออกมาปกป้อง ถึงขนาดว่าจะไล่ฟ้องคนทั้งประเทศได้ ก็คงจะเอาเงินราชการออกมาได้เช่นกัน
ส่อง 10 ตัวเต็ง Miss Tiffany’s Universe 2019
เวทีมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส และมิสแกรนด์ไทยแลนด์ ก็ได้ผ่านพ้นไปแล้วสำหรับปีนี้ และตอนนี้ก็มาถึงคิวของเวทีใหญ่อีกเวทีหนึ่งอย่าง มิสทิฟฟานี่ยูนิเวิร์ส 2019 (Miss Tiffany’s Universe 2019) ที่เดินทางมาถึงโค้งสุดท้ายที่รอบตัดสิน Grand Final จะมาถึงในวันนี้ (20 ก.ค.) ผู้เข้ารอบตัดสินนี้มีเพียง 28 คน และอ้างอิงจากกูรูและแฟนนางงามตัวยงหลายๆ คน ก็มีเพียง 10 คนเท่านั้น ที่เป็นตัวเต็งที่จะมงลงในปีนี้
ริสา ภูริสา ปฐมเอกลักษณ์ หมายเลข 5 สาวหน้าเฉี่ยวแบบไทย แต่ดูมีเอกลักษณ์เหมือนนางแบบอินเตอร์ มาพร้อมหุ่นสวยสง่า และรางวัล Best in Swimsuit ทำให้หลายๆ คนเชื่อว่า ริสา จะต้องเข้ารอบลึกอย่างแน่นอน
กาน กาญจน์ กาญจนสุธา หมายเลข 28 สาวงามรายนี้เป็นกระแสมาตั้งแต่ช่วงผ่านเข้ารอบ 32 คนแล้ว จากใบหน้าที่คล้าย ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ที่เจ้าตัวเผยอย่างเปิดอกว่า กว่าจะสวยขนาดนี้ได้ก็ทุ่มเงินไปกว่าครึ่งล้านทีเดียว
เนม ธัญญาฎา กันภัยเพื่อน หมายเลข 25 ได้ชื่อว่า นางงามยอดกตัญญู เพราะนอกจากความสวยจากภายนอกแล้ว เธอยังเคยตัดสินใจเป็นนางโชว์ตั้งแต่สมันเรียนอยู่ชั้นมัธยม เพื่อเอาเงินไปแบ่งเบาภาระพ่อแม่ และเมื่อมีโอกาสเข้าประกวดครั้งนี้ เธอก็ทุ่มเทอย่างเต็มที่
บอลลูน วรภาดา คงตัน หมายเลข 23 ยิ่งช่วงนี้เทรนด์ผิวสีกำลังมา บอลลูน จึงถูกจับตามองเป็นพิเศษ อีกทั้งในรอบคัดเลือกเธอก็ยังได้รับคำชมจากกรรมการหลายคน บวกกับแรงเชียร์จากแฟนนางงามอย่างล้นหลาม ทำให้บอลลูนเป็นอีกหนึ่งสาวงามที่มีสิทธิ์ลุ้นมงมาก
ออกัส นิลลดา ประเสริฐสังข์ หมายเลข 4 สาวงามที่เคยเข้าประกวดเวทีนี้เมื่อปี 2017 และเข้ารอบลึกถึงรอบ 12 คนสุดท้าย แต่ก็พลาดมงอย่างน่าเสียดาย คราวนี้เธอกลับมาทวงตำแหน่งด้วยรูปร่างหน้าตาที่เป๊ะปังกว่าเดิม แต่จะมงหรือไม่ ต้องรอลุ้นกัน
เดียร์ ฤทัยปรียา เนื่องลี หมายเลข 30 เป็นที่เลื่องลือว่าเป็นผู้ประกวดที่สวมชุดราตรีได้งดงามที่สุด จนต้องติดโผตัวเต็งนี้ และด้วยความสูง 180 ซม. กับใบหน้าสวยหวาน ทำให้เธอโดดเด่นดูสง่า ไม่ค้านสายตาใครๆ
หมีพูห์ วาสิตา ไชยกุลชื่นสกุล หมายเลข 10 สวางามผู้เข้าประกวดที่มาพร้อมใบหน้าสวยคมและรอยยิ้มหวาน และท่วงท่าการโพสต์ การเดิน การยิ้ม ที่ดูดีไปหมด ส่งให้เธอขึ้นแท่นตัวเต็งการประกวดในปีนี้
ริต้า นริตา เหมืองทอง หมายเลข 11 เป็นอีกหนึ่งผู้เข้าประกวดที่เคยประลองในเวทีนี้มาแล้ว โดยในปี 2018 เธอผ่านเข้ารอบสุดท้าย แต่ก็พลาดตำแหน่งผู้ชนะไป ปีนี้เธอจึงมาแก้มือ ด้วยลุคที่เก๋กว่าเดิม จนต้องแอบลุ้นว่าเธอจะมงหรือไม่
เฟิร์ส พัชรา ศรีพัฒนกุล หมายเลข 14 สาวหน้าสวยที่สมัครมาด้วยลุคเท่ๆ ผมสั้นมั่นใจ และเมื่อเข้ารอบลึก ก็เริ่มฉายออร่านางงามจนเป็นที่จับตามอง จนหลายคนลงความเห็นว่าอาจเป็นเธอก็ได้ที่คว้าตำแหน่งในปีนี้
แบงค์ ณัชนารา คงพัฒนานนท์ หมายเลข 12 เธอคนนี้เป็นที่รู้จักกันดีในวงการนางงามข้ามเพศ เพราะเคยขึ้นชิง-คว้ามงกุฎมาหลายเวที และเมื่อมาถึงเวทีนี้ เธอก็ยังรักษามาตรฐานความสวยท่วงท่าการเดิน การยิ้มที่แพรวพราว ทำให้เธอเป็นที่จับตามองว่าเป็นตัวเต็งอีกคนหนึ่ง